ร้องเรีัยนเมื่อ : | 9 ม.ค. 2568 09:18 น. |
---|---|
ประเภทเรื่องร้องเรียน : | กลุ่มขอความช่วยเหลือ |
รายระเอียดเรื่องที่ร้องเรียน / ร้องทุกข์ : | จากที่ผมได้ยื่นหนังสือเกี่ยวกับขอความอนุเคราะห์ในการเร่งรัดติดตามคดีทุจริตสหกรณ์ออมทรัพย์เครดิตยูเนี่ยนศาลาหลวง โดยมีข้อความดังนั้น วัน 11 ธันวาคม พ.ศ. 2567 เรียน : นายชุติเดช มีจันทร์(ผู้ว่าราชการจังหวัดลำปาง) เรื่อง : การทุจริตสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนศาลาหลวง จำกัด(อำเภอเกาะคา) เนื่องด้วยกระผมนายเกรียงศักดิ์ ปิงมา เลขที่บัตรประจำตัวประชาชน 3520300330464 อาศัยอยู่ที่บ้านเลขที่ 121 ม.2 ต.ศาลา อ.เกาะคา จ.ลำปาง เป็นบุตรของ นางศรีนวล ปิงมา เลขที่ บัตรประจำตัวประชาชน 3520300330448 ซึ่งเป็นหนึ่งในผู้เสียหายคดีทุจริตสหกรณ์ออมทรัพย์เครดิตยูเนี่ยน- ศาลาหลวง(อำเภอเกาะคา) ซึ่งคดีนี้ได้มีการตรวจพบจากเจ้าหน้าที่ตรวจสอบบัญชีสหกรณ์ของสหกรณ์กลาง- ลำปาง และมีการเรียกสมาชิกสหกรณ์เข้ามาตรวจสอบยืนยันสถานะบัญชีเมื่อวันที่ 22 พฤษภาคม พ.ศ. 2565 ณ ศาลาเอนกประสงค์วัดศาลาหลวง จากที่มีสมาชิกของสหกรณ์ร้องเรียนให้ตรวจสอบ ซึ่งคดีนี้มีเจ้าหน้าที่ประจำสหกรณ์ออมทรัพย์เครดิตยูเนี่ยนศาลาหลวง(อำเภอเกาะคา) จำนวน 3 คน ให้การรับสารภาพตั้งแต่วันแรกที่มีการตรวจสอบ ได้แก่ 1. นางถนอมศรี จิณะวงค์ พนักงานบัญชี 2. นางทองเพียร มุณีแก้ว พนักงานการเงิน 3. นางสาวเฉลิมศรี บุพชาติ เจ้าหน้าที่ธุรการของสหกรณ์ฯ โดยมีตัวแทนผู้เสียหายของสหกรณ์ฯ ซึ่งคณะกรรมการดำเนินงานสหกรณ์ฯ ได้มอบหมายให้ 1. นายประหยัด ธรรมริตต์ ประธานกรรมการสหกรณ์ฯ 2. นายสุรพงษ์ รักพานิช รองประธานกรรมการสหกรณ์ฯ 3. นางประนอม ทนันชัย เหรัญญิก เข้าแจ้งความต่อ พ.ต.ต. กนก วังใจฟู ที่สถานีตำรวจภูธรเกาะคา จังหวัดลำปาง ในข้อหาความผิดฐาน ยักยอกทรัพย์ ฐานปลอม และร่วมกันใช้เอกสารสิทธิปลอม รวมทั้งความผิดฐานอื่นๆที่เกี่ยวข้อง โดยพนักงาน สอบสวนได้รับคำร้องทุกข์ไว้ดำเนินการสอบสวนตามคดีอาญาที่ 376/2565 ซึ่งปัจจุบันได้มีการเปลี่ยน ผู้รับผิดชอบคดีเป็น พ.ต.ท.อัศวิน สุติวงค์(รอง ผกก. สอบสวน สภ.เกาะคา) ซึ่งได้มีการค้นหาหลักฐาน และ ข้อมูลจากพยานต่างๆ และได้นำส่งให้ทางอัยการที่รับผิดชอบคดีแล้ว เมื่อวันที่ 22 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2567 และ ต่อมาทราบว่าคดีนี้ได้มีการเปลี่ยนอัยการที่รับผิดชอบคดีใหม่ (ข้อมูลนี้ได้มาจากผู้ติดตามของสหกรณ์ฯ และ ผู้ติดตามเองไม่ทราบชื่อของท่านอัยการที่รับผิดชอบคดี) ซึ่งคณะทำงานของอัยการท่านใหม่ได้ขอเวลา ในการพิจาณาเอกสารหลักฐานที่ 2 เดือนซึ่งปัจจุบันเวลาได้ล่วงเลยมาเกินกว่า 7 เดือนแล้ว ก็ยังไม่เห็น ถึงความคืบหน้าของคดี ทราบเพียงแต่มีคำสั่งยึดทรัพย์ไว้ชั่วคราวของ ปปง. ว่าเป็นที่ดิน 1 แปลง และรถยนต์- ปิ๊กอัพ 1 คัน ประเมินราคาได้รวม 220,000 บาทเท่านั้น และเนื่องจากคดีนี้มีผู้เสียหายที่เป็นสมาชิกสหกรณ์เกินกว่า 200 คน มูลค่าเกินกว่า 12 ล้านบาท ซึ่งส่วนใหญ่เป็นผู้สูงอายุต้องการนำเงินสะสมที่เก็บออมมมาใช้จ่าย กรณีของมารดากระผมมีจำนวน 2 บัญชี มีเงินฝากส่วนตัวอยู่ 43,300 บาท และบัญชีกลุ่มทำน้ำพริกอยู่ 15,867.28 บาท ซึ่งหลายคนต้องการเงินออมนำ มาใช้จ่ายในชีวิตประจำวัน เพราะสภาพเศรษฐกิจมีปัญหา ส่วนคนที่กู้เงินสหกรณ์ก็รอผลของคดี และไม่ยอม ชำระเงินกู้เนื่องจากมูลค่าที่กู้กับมูลค่าที่ฝากมีความต่างกันอยู่ ทำให้คนที่ฝากอย่างเดียวหลายคนเดือดร้อน และคดีนี้จากการสอบสวนพบว่าผู้ต้องหาในคดีนี้มีการยักยอกเงินมาตั้งแต่ปี พ.ศ. 2549 และไม่มีการตรวจพบ ปัญหาจนมารู้ทีหลังเพราะสมาชิกไม่สามารถถอนเงินออกจากบัญชีได้จนนำมาสู่การร้องเรียนไปยังสหกรณ์กลาง ลำปาง กระผมจึงขอความอนุเคราะห์มายังท่านผู้ว่าราชการจังหวัดลำปาง ช่วยสนับสนุนในการเร่งรัด ติดตามคดี เพื่อนำไปสู่การพิจารณาตัดสิน เพื่อความเป็นธรรมกับสมาชิก เพื่อให้ผู้กระทำความผิดได้รับโทษ และสมาชิกจะได้รับรู้แนวทางการดำเนินการจัดการในส่วนของเงินกู้ และเงินฝากของตัวเองต่อไป และอาจจะ นำเงินที่เหลือคืนสมาชิกมาใช้จ่ายในชีวิตประจำวันที่ประสบปัญหาต่อไป จึงเรียนมาเพื่อทราบ และพิจารณา ขอแสดงความนับถึงอย่างสูง นายเกรียงศักดิ์ ปิงมา หมายเหตุ : - จากคำกล่าวอ้างอขงผู้ติดตามของสหกรณ์ ทราบว่าคณะทำงานระดับจังหวัด(ไม่ทราบว่าคณะไหน) และโดยใคร ได้กำหนดการประชุมในวันที่ 12 ธ.ค. นี้ และได้บรรจุเรื่องการติดตามความคืบหน้านี้เข้าไป แต่มาทราบวันนี้ว่ามีการเลื่อนกำหนดออกไปเป็นวันที่ 25 ธ.ค. นี้ ซึ่งทำให้เกดความไม่สบายใจว่าคดีนี้ มีความสำคัญ และยังมีการติดตามดำเนินการในระดับจังหวัดหรือไม่ แต่เป็นเพียงคำบอกกล่าว กระผมเอง ไม่รู้ความชัดเจนในเรื่องนี้ เพราะเป็นเพียงคนนอกที่เป็นบุตรของหนึ่งในผู้เสียหายเท่านั้น ซึ่งได้รับความคืบหน้าจากทางผู้รับเรื่องว่าได้ส่ง จม.ดังกล่าวให้ทางศูนย์ดำรงธรรมเพื่อไปดำเนินการต่อ |
ดู : 32 ตอบ : 1
|